ในยุคปัจจุบันที่หลายคนหลายครอบครัวต่างใช้ชีวิตกันอย่างเร่งรีบในทุกๆเรื่อง ทั้งเรื่องงาน เรื่องเรียน ฯลฯ จนทำให้หลายคนมองข้ามความสำคัญในหลายๆเรื่อง อย่างเช่นเรื่อง การจัดห้องครัวให้ถูกต้องตามหลักสุขลักษณะ ที่เรา มิตรสยามเฟอร์นิเจอร์แฟร์ เฟอร์นิเจอร์ สกลนคร จะยกตัวอย่างกันในวันนี้ โดยเราจำนำเสนอวิธีการที่ถูกต้องในการจัดการห้องครัวให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะดวกสบายในการใช้งาน และ เพิ่มควงามปลอดภัยในการใช้งานห้องครัวได้อีกด้วย

1.จัดเก็บอุปกรณ์ให้เหมาะสมตามลักษณะการใช้งาน
   การจัดวางเครื่องใช้ภายในห้องครัวง ตำแหน่งการจัดการที่เหมาะสมจะช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างสะดวกสบายและปลอดภัย โดยสิ่งที่ต้องคำนึงถึง ก็มีอย่างเช่น ความสูงของผู้ใช้งาน ความถี่ในการใช้งาน ลักษณะการใช้ของเครื่องครัวชนิดนั้นๆ เป็นต้น ตัวอย่างเช่น การจัดเก็บช้อนส้อม จานชาม มีด ฯลฯ ก็ควรคำนึงถึงลักษณะการใช้งานด้วย ไม่ควรจัดเก็บมีดในช่องสำหรับเก็บช้อนส้อม ซึ่งก็เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน , การจัดวางเครื่องปรุงอาหารก็ควรมีการแยกประเภทและควรมีป้ายกำกับอย่างชัดเจน เช่น น้ำตาล เกลือ ผงชูรส เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนตอนใช้งาน เป็นต้น

2.เลือกวัสดุและอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับใช้ในครัว
การเลือกวัสดุและอุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องครัว สิ่งที่ควรคำนึงถึงมีดังนี้
2.1 คุณภาพของวัสดุ ควรผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพและผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะช่วยให้อายุการใช้งานยาวนานขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มความปลอดภัยในการมใช้งานอีกด้วย
2.2 ลักษณะการใช้งาน อุปกรณ์แต่ละชนิดก็จะมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป เช่น ช้อนส้อม จานชาม รวมถึงมีด ก็ควรใช้วัสดุที่ไม่ก่อให้เกิดสนิมและสารเคมีตกค้าง อุปกรณ์สำหรับล้างจานก็ควรใช้วัสดุที่ไม่ให้เกิดสนิม เพราะต้องสัมผัสกับน้ำตลอดเวลา เป็นต้น
2.3 ลักษณะการใช้งานเฉพาะ ในบางครอบครัวจะมีสมาชิกที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ อย่างเช่น เด็กทารก ผู้สูงอายุ หรือ ผู้ป่วย เป็นต้น ซึ่งจะมีเครื่องใช้และอุปกรณ์ชนิดพิเศษสำหรับผู้ใช้เหล่านั้น ที่เราควรให้ความสำคัญอย่างมาก

3.จัดเก็บอาหารให้เหมาะสมกับชนิดของอาหาร
การจัดเก็บอาหารเหมาะสมตามชนิดของอาหารจะช่วยให้คุณสามารถสร้างความเป็นระเบียบในการเก็บอาหารและป้องกันการเสียหายของอาหารได้ ดังนั้น ด้านล่างนี้เป็นวิธีการจัดเก็บอาหารให้เหมาะสมตามชนิดของอาหาร
1. เนื้อสัตว์ : ควรจัดเก็บในช่องเย็นของตู้เย็น หรือในช่องแช่แข็ง โดยใส่ในซองพลาสติกหรือซองกันฝุ่นก่อนเก็บ อีกทั้งควรคำนึงถึงวันหมดอายุที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ด้วย
2. ผักและผลไม้ : ควรเก็บในช่องเย็นของตู้เย็นหรือในลิ้นชักหรือตะกร้าในช่องแช่ และควรล้างก่อนเก็บเพื่อลดแบคทีเรียและความชื้น สำหรับผลไม้ที่สุกแล้ว ควรจัดเก็บที่อุณหภูมิห้อง หรือบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
3. ข้าวและธัญพืช : ควรเก็บในภาชนะปิดเหนียวหรือภาชนะซึ่งมีฝาปิดแน่นหนา เพื่อป้องกันการสกัดความชื้นหรือเชื้อรา และควรเก็บในที่ที่แห้งและมีอากาศถ่ายเทดี
4. อาหารแช่ : ควรเก็บในภาชนะปิดสนิท เพื่อป้องกันการสกัดความชื้น และเก็บในช่องเย็นของตู้เย็นเท่านั้น ไม่ควรเก็บนานเกิน 3-4 วัน

4.จัดเตรียมพื้นที่ให้เหมาะสมกับงานแต่ละชนิดในครัว
การจัดเตรียมพื้นที่ให้เหมาะสมกับงานแต่ละชนิดในครัวเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้การทำงานในครัวเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ด้านล่างนี้เป็นวิธีการจัดเตรียมพื้นที่ให้เหมาะสมกับงานแต่ละชนิดในครัว
1. พื้นที่สำหรับการทำอาหาร : ควรจัดเตรียมพื้นที่ในการทำอาหารให้เพียงพอสำหรับการเตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เคาน์เตอร์ อ่างล้างจาน และตู้เย็น ควรจัดเตรียมพื้นที่สำหรับเสิร์ฟอาหารและทำความสะอาดอุปกรณ์หลังจากใช้งานเสร็จแล้ว
2. พื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร : ควรจัดเตรียมพื้นที่สำหรับเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มให้เหมาะสมสำหรับจำนวนคนที่รับประทาน ควรมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเคลื่อนไหวของบุคคลภายในพื้นที่ และอุปกรณ์เสริมเช่น โต๊ะ ตู้เย็น และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ
3. พื้นที่สำหรับการจัดปาร์ตี้ : ควรจัดเตรียมพื้นที่สำหรับจัดโต๊ะอาหาร และพื้นที่สำหรับการเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม ควรมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเคลื่อนไหวของบุคคลภายในพื้นที่ และเครื่องเสริมเช่น ชั้นวางอาหาร ตู้เย็น และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ
